Spiga

'โอบามา'ประกาศชัยชนะ เป็นตัวแทนพรรคชิงปธน. คลินตันปฏิเสธยกธงขาว

5 มิถุนายน 2551 กองบรรณาธิการ

"บารัก โอบามา" กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นอเมริกันผิวสีคนแรกที่ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เจ้าตัวประกาศชัยชนะเหนือ "ฮิลลารี คลินตัน"

ภายหลังซูเปอร์เดลิเกตชุดใหญ่แห่สนับสนุนจนได้เสียงเกินครึ่งเป็นที่เรียบร้อย ขณะอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ยังไม่ยอมแพ้ แต่ให้ท่าพร้อมเป็นรองประธานาธิบดี ส่วนผลเลือกตั้งขั้นต้นใน 2 มลรัฐสุดท้าย ต่างฝ่ายต่างคว้าชัยไปคนละรัฐ

นายบารัก โอบามา ส.ว.สมัยแรกจากรัฐอิลลินอยส์ กำลังจะเปลี่ยนสถานะจากนักการเมืองผู้แทบไม่เป็นรู้จักในเวทีระดับชาติ มาเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐกับ ส.ว.จอห์น แม็กแคน แห่งพรรครีพับลิกัน ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ย.ปีนี้ เมื่อเขาสามารถดึงเสียงสนับสนุนจากผู้แทนที่มีสิทธิเลือกตัวแทนพรรคในที่ประชุมใหญ่เดือน ส.ค.เกินครึ่งหนึ่งหรือ 2,118 เสียงแล้วเมื่อวันอังคาร

"ค่ำคืนนี้ เราได้กำหนดจุดสิ้นสุดการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ ด้วยการเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่" เขาประกาศต่อกลุ่มผู้สนับสนุนกว่า 30,000 คนที่เฉลิมฉลองชัยชนะกันทั้งภายในและภายนอกศูนย์ประชุมที่เมืองเซนต์พอล รัฐมินนิโซตา ซึ่งจะเป็นสถานที่จัดประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันในเดือน ก.ย. "ค่ำคืนนี้ ผมสามารถยืนอยู่เบื้องหน้าพวกคุณแล้วพูดว่า ผมจะเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ"

คำประกาศชัยชนะของเขาเกิดภายหลังซูเปอร์เดลิเกตมากกว่า 70 คนยกขบวนกันสนับสนุนทำให้เขามีคะแนนเดลิเกตถึง 2,156 คะแนนแล้วตามการรวบรวมของเอ็มเอสเอ็นบีซี

ข่าวดีของ ส.ว.ผิวสีวัย 46 ปีผู้นี้เกิดขึ้นก่อนทราบผลการเลือกตั้งขั้นต้น 2 รัฐสุดท้ายของพรรคที่มอนแทนาและเซาท์ดาโคตา ซึ่งโอบามาคว้าชัยในรัฐแรก ส่วนนางฮิลลารี คลินตัน ส.ว.นิวยอร์ก ชนะที่รัฐหลัง

นางคลินตันผู้เคยเป็นตัวเต็งในตอนแรก ยังคงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ โดยบอกว่า นางจะรอปรึกษากับแกนนำพรรคและผู้สนับสนุนของนางภายในไม่กี่วันข้างหน้า ก่อนตัดสินใจว่าจะดำเนินการขั้นต่อไปอย่างไร "การหาเสียงครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน ดิฉันจะยังไม่ตัดสินใจใดๆ ในคืนนี้" นางคลินตันกล่าว

นางคลินตันกล่าวต่อบรรดาสมาชิกสภาคองเกรสของนิวยอร์กด้วยว่า นางยังเปิดกว้างพร้อมรับฐานะผู้สมัครรองประธานาธิบดีของโอบามา ขณะที่บรรดาผู้สนับสนุนของนางก็หันไปกดดันให้โอบามาเลือกคลินตันเป็นคู่สมัครของเขาด้วยอีกแรง

ชัยชนะของโอบามา ซึ่งเป็นลูกครึ่ง พ่อผิวสีชาวเคนยา แม่อเมริกันผิวขาวจากแคนซัส เป็นหลักหมุดที่สำคัญของประวัติศาสตร์สหรัฐ ที่เกิดไล่หลังขบวนการเรียกร้องสิทธิพลเมืองที่เท่าเทียมกันถึง 45 ปี และเป็นผลลัพธ์ของการต่อสู้ระหว่างผู้สมัคร 2 รายที่ยาวนานและสูสีที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ โดยนางคลินตัน ผู้ปรารถนาจะเป็นสตรีคนแรกที่ขึ้นชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เสียงจากเดลิเกตมากกว่า 1,900 คะแนน

คาดกันว่าแกนนำและผู้แทนของพรรคเดโมแครตที่มีสิทธิลงคะแนนเลือกตัวแทนพรรคโดยไม่ผูกมัดกับผลการเลือกตั้งขั้นต้นหรือการหยั่งเสียงของแต่ละรัฐตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา จะประกาศตนสนับสนุนโอบามาเพิ่มอีกในวันพุธ

การต่อสู้อย่างดุเดือดระหว่างโอบามาซึ่งเพิ่งเป็นที่รู้จักระดับชาติจากการฉายแววขณะกล่าวสุนทรพจน์สำคัญในที่ประชุมพรรคเมื่อปี 2547 กับนางคลินตัน อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 และ ส.ว.มากประสบการณ์วัย 60 ปี ทำให้เดโมแครตแตกเป็น 2 ฝ่าย โดยกลุ่มผิวดำ คนหนุ่มสาว คนมีการศึกษาสูงและรายได้สูงเลือกถือหางโอบามา ขณะที่กลุ่มฮิสปานิก, ผู้สูงวัย และชนชั้นแรงงานผิวขาวสนับสนุนนางคลินตัน.

ไทยโพสต์

"คาร์เตอร์"เตือนโอบาม่าไม่ให้เลือกฮิลลารี่เป็นคู่ชิงรองปธน.


อดีตผู้นำสหรัฐฯเตือนบารัก โอบาม่า ไม่ให้เลือกฮิลลารี่ คลินตันเป็นคู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐ


(5มิย.) เว๊ปไซต์ของหนังสือพิมพ์"เดอะ การ์เดี้ยน"ของอังกฤษ เปิดเผยคำให้สัมภาษณ์บางส่วนของอดีตประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ของพรรคเดโมแครตของสหรัฐฯ ที่มีกำหนดจะตีพิมพ์เผยแพร่ฉบับเต็มในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ เตือนวุฒิสมาชิกบารัก โอบาม่า ไม่ให้ทำสิ่งผิดพลาดเลวร้ายที่สุดในชีวิต ด้วยการเลือกอดีตคู่แข่ง คือวุฒิสมาชิกหญิงฮิลลารี่ คลินตัน เป็นคู่สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี สำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน และว่าเขาจะแนะนำแบบเดียวกัน หากนางฮิลลารี่เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคฯ

การสัมภาษณ์มีขึ้นก่อนที่นายโอบาม่า จะประกาศชัยชนะในการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่อดีตผู้นำสหรัฐฯท่านนี้ ผู้เป็นหนึ่งในซุปเปอร์ เดลิเกต ประกาศสนับสนุนนายโอบาม่าอย่างเป็นทางการ นายคาร์เตอร์ได้สนับสนุนให้นายโอบาม่าเลือกคู่สมัครคนอื่น ที่จะช่วยชดเชยข้อด้อยต่างๆของเขา ซึ่งรวมทั้งการที่เขาอายุยังน้อย กับด้อยประสบการณ์ทางทหารและกิจการระหว่างประเทศ พร้อมแนะนำนายแซม นัน อดีตประธานคณะกรรมาธิการทหารของวุฒิสภาสหรัฐฯ หรือ สมาชิกอาวุโสคนอื่นๆของเดโมแครตที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับนายนัน

คาร์เตอร์ผู้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯในช่วงปี 2520-2524 ให้เหตุผลว่า การจับมือกันของโอบาม่ากับฮิลลารี่ จะยิ่งเพิ่มมุมมองในแง่ลบในสายตาผู้มีสิทธ์ออกเสียง พร้อมยกตัวอย่างว่า มีผลสำรวจที่ระบุว่า มีคนร้อยละ 50 ที่บอกว่าไม่คิดจะลงคะแนนให้นางฮิลลารี่ หากนำ

จำนวนนี้ไปบวกรวมกับจำนวนผู้ที่คิดว่านายโอบาม่าผิวขาวไม่พอ หรือมีประสบการณ์ไม่มากพอหรือผู้ที่ไม่ชอบใจที่เขามีนามสกุลคล้ายภาษาอาหรับ สถานการณ์จะแย่มาก

คม ชัด ลึก

ดรีมทีมโอบามา-ฮิลลารีเดโมแครตยอมรับยังเป็นเรื่องยาก


วอชิงตัน-ชี้ดรีมทีมโอบามา-ฮิลลารีร่วมกันเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเข้าชิงทำเนียบขาวในปลายปีนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

ภายหลังจากวุฒิสมาชิกบารัก โอบามา วัย 46 ปี สามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้เป็นคนผิวสีคนแรก ที่เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อวันอังคาร (3 มิ.ย.) เมื่อประกาศตัวเป็นผู้แทนของพรรคเดโมแครต ลงชิงชัยการเลือกตั้งประธานาธิบดีหลังต่อสู้ขับเคี่ยวกับวุฒิสมาชิก ฮิลลารี คลินตันอย่างดุเดือดมาตลอด 5 เดือน ก่อนที่การเลือกตั้งไพรมารีใน 2 รัฐสุดท้ายจะเสร็จสิ้นลงแล้ว โดยนางฮิลลารีชนะในรัฐเซาท์ดาโกตา ขณะที่นายโอบามาชนะในรัฐมอนแทนา ทำให้มีคะแนนคณะผู้แทน หรือเดลิเกต พุ่งขึ้นเป็น 2,132 เกินกว่า 2,118 ที่กำหนดไว้ ทำให้เกิดกระแสตามมาว่า มีโอกาสมากน้อยเพียงใดที่นายโอบามาจะเลือกนางฮิลลารี เป็นผู้สมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดี

ทั้งนี้ นายโอบามาได้กล่าวชื่นชมอดีตสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐว่า เธอได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยมีสตรีคนใดสามารถทำได้มาก่อน ขณะที่นางฮิลลารีได้ชมนายโอบามาว่าเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวอเมริกันหลายคนหันมาสนใจการเมือง และกระตุ้นให้หลายคนเข้ามามีส่วนร่วม ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า นางฮิลลารีได้บอกกับสมาชิกรัฐสภารัฐนิวยอร์กว่า เธอพร้อมจะเป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี

ผู้เชี่ยวชาญด้านการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเดโมแครตหลายคนให้ความเห็นว่าหากนายโอบามา และนางฮิลลารีลงสมัครตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดีในนามของพรรคเดโมแครต จะทำให้ฐานคะแนนเสียงของพรรคเข้มแข็งขึ้น เพราะทั้ง 2 คนจะช่วยจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งของอีกฝ่ายได้ โดยในส่วนของนางฮิลลารีนั้น เป็นที่ชื่นชอบของชนชั้นผู้ใช้แรงงานผิวขาว กลุ่มสตรี และกลุ่มชนที่มีเชื้อสายและพูดภาษาสเปน ซึ่งเคยประกาศว่า จะไม่ลงคะแนนให้นายโอบามา หากได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ดังนั้น หากเธอร่วมมือกับโอบามา จะทำให้ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตมีความเป็นเอกภาพมากเพียงพอที่จะชนะนายจอห์น แมคเคน จากพรรครีพับลิกันได้

อย่างไรก็ตาม มีเสียงวิจารณ์ว่า หากนายโอบามาเลือกนางฮิลลารีเป็นรองประธานาธิบดี ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เพราะชาวอเมริกันกว่าร้อยละ 40 มีทัศนคติในด้านลบต่อเธอ ขณะที่ผู้ออกเสียงอิสระอีกจำนวนมากเกรงว่า หากได้เธอเป็นรองประธานาธิบดี ก็จะเป็นการนำครอบครัวคลินตัน กลับสู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง

ขณะที่นายจิม ดัฟฟีย์ นักกลยุทธ์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคเดโมแครต ได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องการประสานความร่วมมือกันของนายโอบามากับนางฮิลลารี หากต้องมาทำงานร่วมกันในทำเนียบขาว เพราะโดยเบื้องลึกแล้ว ทั้ง 2 คนต่างไม่กินเส้นกัน นอกจากนี้ ระหว่างการหาเสียงที่ผ่านมา เธอได้เสนอนโยบายที่ขัดแย้งกับของนายโอบามา ซึ่งหากต้องมาทำงานร่วมกันอาจจะส่งผลกระทบต่อการบริหารได้

คมชัดลึก


0 ความคิดเห็น: