Spiga

แมคเคนรับโอบามาสู่สนามเลือกปธน.โดยโจมตีเผ็ดร้อน

(4มิย.) วุฒิสมาชิกจอห์น แมคเคน ผู้สมัครประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน ได้ไปปราศรัยที่เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐหลุยส์เซียนาเมื่อคืนวันอังคาร ซึ่งเหมือนเป็นการเริ่มหาเสียงอย่างเป็นทางการ ในช่วงที่มีความชัดเจนแล้วว่าวุฒิสมาชิกบารัค โอบามาจะเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงชัยเก้าอี้ประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน

แมคเคนตอบโต้ข้อกล่าวหาของโอบามา ที่ระบุว่า เขากำลังลงสมัครเป็นประธานาธิบดีจอร์จดับเบิลยู บุชสมัยที่สาม เพราะมีนโยบายแบบเดียวกับบุชที่สนับสนุนสงครามอิรักและขยายเวลามาตรการลดภาษี โดยบอกว่า ชาวอเมริกันไม่ได้เพิ่งรู้จักเขาเหมือนที่เพิ่งรู้จักโอบามา

และโอบามามักพูดโจมตีเขาในประเด็นนี้บ่อยมาก แทนที่จะหาเสียงอย่างตรงไปตรงมาในเรื่องความแตกต่างของแนวทางการบริหารประเทศของแต่ละฝ่าย


นอกจากนี้ฉากด้านหลังเวทีปราศรัยของแมคเคน มีข้อความสโลแกนใหม่ของแมคเคนที่มุ่งเน้นภาวะผู้นำของเขาว่า "A Leader We Can Believe In" ซึ่งตอบโต้โดยตรงกับสโลแกนของโอบามาที่เน้นสร้างความเปลี่ยนแปลงว่า "Change We Can Believe In"

และเขาพูดถึงประเด็นนี้ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ไม่ว่าใครชนะการเลือกตั้ง ทิศทางการบริหารประเทศจะเปลี่ยนไปอย่างมาก แต่จะเป็นการเลือกระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่ถูกและการเปลี่ยนแปลงที่ผิด

จับตานโยบายตปท. 'โอบามา-แม็คเคน' เปิดศึกชิงผู้นำทำเนียบขาว

ภายหลังวันเดียวแห่งชัยชนะคว้าชัยเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต นายบารัก โอบามา วุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์ ก็ได้เริ่มเดินหน้าภารกิจใหม่ที่สำคัญอย่างไม่รอช้า โดยการเสนอวิสัยทัศน์ด้านต่างประเทศ ซี่งที่ผ่านมายังคงสร้างความคลุมเคลือให้แก่ชาวอเมริกัน ต่อสถานการณ์โลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะการตั้งความหวังของผู้นำสหรัฐ หลังจากที่เคยผิดหวังอย่างแรงกับนโยบายของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช มาแล้ว ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองโลก และประเด็นดังกล่าวได้กลายเป็นหัวข้อในการหาเสียงของเขาและนางฮิลลารี คลินตัน รวมทั้งนายจอห์น แม็คเคน ขึ้นมาอย่างประปราย และเผ็ดร้อนในบางระยะ

แน่นอนที่สุด นโยบายต่างประเทศของชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐย่อมเป็นที่สนใจของผู้คนทั่วโลก นอกเหนือจากชาวอเมริกัน ว่าตัวแทนของพรรคการเมืองยักษ์สองฝ่าย ทั้งเดโมแครตและรีพับลิกัน จะมีท่าทีและจุดยืนอย่างไรสำหรับ'ใครต่อใคร'ในประชาคมโลกกันบ้าง

ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น นายบารัก โอบาม่า วุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์ ตัวแทนพรรคเดโมแครต แข่งขันประธานาธิบดีสหรัฐ ได้กล่าวปราศรัยต่อคณะกรรมาธิการกิจการสาธารณะชาวอเมริกัน-อิสราเอล โดยเขาได้แสดงวิสัยทัศน์ด้านต่างประเทศเป็นครั้งแรก เกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยเขาได้โจมตีอิหร่านเผ็ดร้อน ระบุว่า สงครามอิรักได้ทำให้อิหร่านแข็งแกร่งขึ้น แต่ทำให้สหรัฐและอิสราเอลอ่อนแอลง โดยอิหร่านได้กลายเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่ออิสราเอลมากกว่าอิรัก และกลายเป็นอุปสรรคทางยุทธศาสตร์ที่ใหญ่หลวงต่อสหรัฐและอิสราเอลในภูมิภาคตะวันออกกลางในอนาคต โดยอิหร่านได้สนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรง และมุ่งที่จะสร้างศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์ และกระตุ้นให้การแข่งขันด้านอาวุธที่อันตราย ซึ่งสหรัฐรู้ดีมาตั้งแต่ปี 2002 แต่รัฐบาลของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช กลับเพิกเฉยและหันไปรุกรานและยึดครองอิรัก

ตัวแทนพรรคเดโมแครตฯกล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน อิรักอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพ กลุ่มอัลเคด้า ได้เพิ่มการระดมสมาชิกกลุ่ม ขณะที่ความพยายามเจรจาสันติภาพของอิสราเอลต้องระงับ ทำให้อเมริกาถูกโดดเดี่ยวในภูมิภาคนี้ ซึ่งหากเขาเป็นประธานาธิบดี จะไม่มีวันประนีประนอมกับเรื่องที่เป็นภัยความมั่นคงของอิสราเอล และเขาพร้อมที่จะใช้นโยบายทางการทูตกับอิหร่านอย่างเหมาะสมเพื่อสกัดการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยเขาจะไม่เจรจากับผู้นำอิหร่าน และว่า เขาจะโดดเดี่ยวกลุ่มฮามาสจนกว่ากลุ่มจะประนามการก่อการร้าย ยอมรับสิทธิที่จะมีอยู่ของอิสราเอล โดยกรุงเยรูซาเล็มจะไม่สามารถแบ่งแยกได้ และจะต้องยังคงเป็นเมืองหลวงอิสราเอล

นอกจากนี้ นายโอบาม่า ยังได้สนับสนุนความพยายามของอิสราเอลในการฟื้นฟูการเจรจากับซีเรีย เกี่ยวกับประเด็นการถอนกำลังทหารออกจากที่ราบสูงโกลาน พร้อมทั้งสนับสนุนปฎิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่อซีเรียซึ่งอิสราเอลอ้างว่าซีเรียได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ โดยโอบาม่าบอกว่า ซีเรียได้ดำเนินขั้นตอนที่เป็นอันตรายในการบรรลุครอบครองอาวุธมหาประลัย

ทัศนะของนายโอบามาเห็นได้ชัดว่าแข็งกร้าวขึ้นหลังจากถูกนายจอห์น แม็คเคน วุฒิสมาชิกรัฐอริโซน่า ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ โจมตีเขาที่แสดงทัศนะว่าพร้อมจะเจรจากับผู้นำอิหร่าน และรัฐบาลที่เป็นศัตรูของสหรัฐ ซึ่งเห็นได้ชัดว่า มุ่งประเด็นสถานการณ์ตะวันออกกลางเป็นพิเศษ โดยล่าสุด นายโอบามาซึ่งที่ผ่านมาถูกโจมตีว่าอาจมีนโยบายสนับสนุนการต่อต้านชาวยิว เพราะเคยสนับสนุนกลุ่มฟารักข่าน ก็ได้ประกาศถอนตัวจากเป็นสมาชิกคริสตจักร์ของกลุ่มนี้แล้ว ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ วิสัยทัศน์ของโอบามา หรือกระทั่งนายแม็คเคน ต่อประเด็นต่าง ๆ ในกิจการโลก ทั้งด้านการค้า เศรษฐกิจ และอื่น ๆ จะถูกแสดงออกมามากขึ้นอย่างแน่นอน ในช่วงหลังจากนี้ หรืออาจดุเดือดเลือดพล่านพลันที่ทั้งสองฝ่ายต้องเปิดฉากรณรงค์หาเสียง ที่จะกินเวลา 5 เดือน

ขณะเดียวกัน รายงานระบุว่า นางฮิลลารี คลินตัน วุฒิสมาชิกรัฐนิวยอร์ก มีแผนจะประกาศยอมแพ้การชิงชัยเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตฯในวันเสาร์นี้ พร้อมทั้งประกาศสนับสนุนนายโอบาม่า ท่ามกลางเสียงสนับสนุนและคัดค้านของหลายฝ่าย ซึ่งบางคนบอกว่านี่คือดรีมทีมที่ลงตัว ขณะที่บางฝ่ายว่านางฮิลลารีจะกลายเป็นอุปสรรคของนายโอบามามากกว่า

ขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่า ข้างฝ่ายตัวแทนพรรครีพับลิกัน จะมองว่า ตัวเองอาจได้เปรียบด้านวิสัยทัศน์เหนือกว่านายโอบามา ณ วินาทีนี้ โดยนายจอห์น แม็คเคน ได้ร่อนสาสน์ท้าให้นายบารัก โอบาม่า โต้วาทีแข่งขันกับเขาในศาลาว่าการของเมืองต่าง ๆ 10 เมือง ในฐานะสองผู้ชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยจดหมายของนายแม็คเคนเสนอให้นายโอบามาจัดการดีเบทกับเขาเป็นเวลา 60-90 นาที ตอบคำถามสด ๆ ที่ผู้เข้าร่วมราว 200-400 คน แต่ขณะนี้ยังไม่มีปฎิกิริยาตอบโต้ใด ๆ จากนายโอบามา (ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า เขาจะไม่ผลีผลาม แต่จะต้องฟังคำปรึกษาของทีมหาเสียงของเขาอย่างรอบคอบเสียก่อน)

ปฎิกิริยา'ท้าขึ้นเวทีชก'ดังกล่าวของนายแม็คเคน ว่าไปแล้วดูจะไม่ใช่เรื่องยากจะคาดเดา เพราะก่อนหน้านี้ โพลสำรวจความคิดเห็นระบุว่า เขามีคะแนนนิยมตามหลังนายโอบาม่า ทำให้ปฎิบัติการเปิด'ศึกแก้ลำ'ทวงความได้เปรียบจึงต้องเกิดขึ้น ในห้วงเวลาที่กำลังเข้าทาง ขณะที่ท่าทีของนายแม็คเคนนั้น ถูกหลายฝ่ายติงว่ามีนโยบายคล้ายประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เนื่องจากเขาสนับสนุนการคงทหารในอัฟกานิสถาน (นายแม็คเคนเคยเป็นอดีตทหารที่ผ่านสงครามเวียดนาม)แต่ที่ผ่านมา เขาพยายามจะฉีกตัวเองจากภาพลักษณ์คล้ายปธน.บุช โดยเฉพาะในแง่ความนิยมที่ตกต่ำจากการตัดสินใจหลายเรื่องที่ผิดพลาด สร้างความผิดหวังให้แก่ชาวอเมริกันชน

ซึ่งนับแต่นี้ต่อไป ศึกวาทะแสดงวิสัยทัศน์การเมืองต่างประเทศ ระหว่างโอบาม่าและนายแม็คเคน คาดว่าจะดุเด็ดเผ็ดร้อนตามกาลเวลา หลังห้วงแห่งการชิงชัยศึกผู้นำทำเนียบชาวใกล้งวดเข้ามาทุกทีแล้ว!

มติชน


0 ความคิดเห็น: